​​

• ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีของมนุษย์โลกเริ่มพัฒนาสู่จุดสูงสุดนั้นเอง สงครามดวงดาว(Black Circus) ก็ได้อุบัติขึ้นโดยแกนนำของ            ชาวนิเมร่า ที่ออกล่าอาณานิคมดวงดาวเพื่อขยายอำนาจการปกครองออกไป

 

• เมื่อภัยสงครามระรานมาถึง โลกมนุษย์ ที่นอกจากจะกลายมาเป็น ที่ลี้ภัยสงครามของชาวควินซ์ แล้วยังกลายเป็นเป้าหมายในการโจมตีต่อไปของนิเมร่าเนื่องจากการค้นพบว่า แร่อควอมันเทียม ที่ฝังอยู่ภายในแกนโลกนั้นสามารถนำมาสร้างอาวุธทรงอานุภาพที่สุดเท่าที่เคยมีมาในจักรวาลได้

 

• ถึงแม้ว่าโลกจะได้รับความช่วยเหลือจากสภากาแล็กติก แต่ด้วยพลานุภาพที่ยังไม่สามารถทัดเทียมกับเหล่านิเมร่าได้ โลกจึงกลายเป็นสมรภูมิสงครามนับแต่นั้นมา มนุษย์ถูกกวาดล้างจนแทบจะสูญพันธุ์ การวิวัฒนาการเพื่อการเอาตัวรอด จึงเริ่มต้นขึ้น และเกิดเป็น นิวไทป์ หรือ กลุ่มบุคคลที่สามารถควบคุมพลังธรรมชาติได้ห้าคน นั่นก็คือ อเล็กแซน ลินซ์, แอนโธนี่ บรานซ์, ทิโมธี เดรก, ฝาแฝด ลิลี่ และ ไลล่า บลู

 

• ด้วยการสนับสนุนจากชาวควินซ์ พวกเขาเริ่มต้นฝึกควบคุมพลังอำนาจที่ได้รับมา และกลายเป็นผู้ถือครองพลังดิน น้ำ ลม ไฟ นับแต่นั้น

 

• เริ่มมีการสอนเหล่า นิวไทป์รุ่นใหม่ ที่ถือกำเนิดขึ้นบนโลกให้ควบคุมพลังธาตุเพื่อสนับสนุนกองกำลังทหาร ก่อนที่จะเริ่มต้นตอบโต้การโจมตีของเหล่านิเมร่าเป็นระยะเวลาเกือบสามสิบปีภายใต้การนำของ อเล็กแซน จนในที่สุดสตรีผู้ถือครองพลังไฟก็ได้เอาชนะเหล่านิเมร่าด้วยการสังหารผู้บัญชาการกองทัพจนกองทัพแตกพ่ายไป

 

• หลังจากนั้นไม่นานมนุษย์โลกก็ได้ปักหลักในสถานที่แห่งใหม่ โดยใช้ชื่อเมืองแห่งนี้ว่า อลันไทร์ โดยมีการสร้างระบบการปกครองแบบใหม่ขึ้นใช้ ซึ่งเป็นการปกครองระบอบกษัตริย์ผสมผสานกับการปกครองแบบเผด็จการทหาร และ อเล็กแซน ที่ได้รับตำแหน่ง จักรพรรดินี ก็ได้ตั้งชื่อวงศ์กษัตริย์ของตนว่า โรสเบล ซึ่งหมายถึง ระฆังกุหลาบที่จะดังกึกก้องชั่วกาลตราบเท่าที่เผ่าพันธุ์มนุษย์จะยังคงมีลมหายใจ

​

​

​

​

​

​

​

​

​

​

​

​

​​

​

​

​

• อแล็กแซน ปกครองอลันไทร์อยู่เกือบสิบปี และสวรรคตด้วยวัยเพียง 56 พรรษา บัลลังก์จึงตกเป็นของ อแล็กแซน โรสเบล ที่2 เจ้าหญิงแห่งอลันไทร์ ผู้มีพระชนมายุ 27 พรรษา ซึ่งเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ไม่มีพลังนิวไทป์ จึงเกิดจลาจลทางการเมืองเพื่อแย่งชิงอำนาจภายในอลันไทร์ โดยมี ทิโมธี เดรก บุรุษผู้ถือครองพลังดิน เป็นหัวหน้ากลุ่มจลาจลครั้งนี้ เนื่องจากความไม่ลงรอยของทั้งคู่ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ทันได้สร้างอลันไทร์ขึ้น

 

• ความมั่นคงทางการเมืองเริ่มสั่นคลอน เมื่ออลันไทร์ต้องกรำศึกสองด้านนั่นก็คือการปราบปรามจลาจลทางการเมือง และกำจัดผู้บุกรุกที่ยังมีประปรายตามบริเวณต่างๆ จนในที่สุด อแล็กแซนที่2 ก็ถูกลอบปลงพระชนม์โดยทิโมธี เดรก พระบรมวงศานุวงศ์ทั้งหลายถูกสังหาร และเขาก็ได้ขึ้นปกครองในฐานะ กษัตริย์แห่งอลันไทร์ โดยไม่รู้ว่าลูกชายของตนเผลอมอบหัวใจให้กับหลานสาวของพระจักรพรรดินีแห่งอลันไทร์ไปแล้ว

 

• นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของ อเล็กแซนเดรีย ลินซ์ โรสเบล หรือที่รู้จักกันในชื่อ อเล็กแซนที่3 ธิดาของอเล็กซานเดอร์ ลินซ์ น้องชายของพระจักรพรรดินีอเล็กแซน โรสเบล ที่1

 

• อเล็กแซนเดรีย พาครอบครัวของนางหลบหนีออกจากพระราชวังก่อนการสังหารหมู่ของทิโมธี และซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ใต้ดินของอลันไทร์ ใต้จมูกของกษัตริย์ทิโมธีนี้เอง นางจึงเริ่มรวบรวมกลุ่มคนที่ยังคงภักดีต่อโรสเบล เกมการเมืองร้อนเป็นไฟเมื่อกลุ่มทหารลุกฮือหันเข้าร่วมกับอเล็กแซนเดรีย ซึ่งแม้แต่ แอชลิน เดรก บุตรชายของทิโมธี เจ้าชายแห่งอลันไทร์ ผู้ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการกระทำของบิดา ยังร่วมขบวนการต่อต้านนี้

 

• การทวงคืนบัลลังก์ จึงเริ่มเป็นเรื่องง่ายดายเมื่อมีแก้วตาดวงใจของกษัตริย์อยู่ในขบวนการ ทั้งแรงกดดันจากประชาชน สังคม และตัวเมืองโดยรอบ ก็กลายมาเป็นเครื่องมือบีบให้ทิโมธี เดรกจำต้องยอมสละบัลลังก์คืนให้แก่โรสเบล และสุดท้ายเขาก็ได้จบชีวิตตนลงด้วยพลังของเขานี้เอง

 

• อเล็กแซนเดรียผู้ซึ่งเข้าใจถึงเจตนารมณ์ของทิโมธี ที่แม้ว่าจะทรยศต่อตระกูลของตนและสร้างบาดแผลในใจของนาง แต่ความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงโลกไปในทางที่ดีนั้นไม่ต่างกัน นางจึงก่อตั้ง สถาบันอลันไทร์ สถานที่สำหรับฝึกฝนนิวไทป์รุ่นใหม่ขึ้น โดยมีรูปปั้นของ ทิโมธี เดรก เป็นอนุสรณ์สถานอยู่ภายในสถาบัน และหวังว่าความภักดีต่อมนุษยชาติของเขาจะเป็นแรงผลักดันให้คนรุ่นใหม่สืบไป

 

• อเล็กแซนเดรียผู้ถือครองพลังแห่งไฟ สามารถทวงบัลลังก์กษัตริย์แห่งอลันไทร์กลับคืนมาได้ โดยมีพระสวามีคือ แอชลิน เดรก เคียงข้าง พร้อมกับให้กำเนิดพระโอรสองค์หนึ่งนามว่า อเล็กซานเดอร์ ทิโมธี ลินซ์ โรสเบล ที่2 และปกครองอลันไทร์ตั้งแต่นั้นมา

​

​